วิตามินดีที่สุดสำหรับบำรุงสุขภาพ

5/5 - (1 vote)

น่าเสียดายที่หลายคนเชื่อว่าผู้คนมีปัญหากับการมองเห็นไม่ชัด ตาพร่ามัว ตาแห้ง และตาอักเสบ เรามักจะไปหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจตา เมื่อคุณมีอาการผิดปกติในดวงตา แต่ก่อนที่จะทำอย่างนั้น คุณสามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยบางอย่างที่จะช่วยปรับปรุงสุขภาพดวงตาของคุณได้ในที่สุด

รายงานการวิจัยหลายฉบับ มีรายงานว่าอาหารเสริมสำหรับดวงตา เช่น วิตามิน เช่น น้ำมันปลา วิตามินซี และสังกะสี สามารถปรับปรุงสุขภาพดวงตาและลดความแห้งกร้านได้ รวมทั้งการอักเสบของดวงตา หนึ่งในอาหารเสริมที่สำคัญคือกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้รับการศึกษาถึงประโยชน์ของมันต่อดวงตา เราให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพในการดูแลดวงตา

“ถ้าคุณรู้สึกว่าดวงตาของคุณแห้ง นั่นหมายความว่า คุณขาด วิตามินบำรุงสายตา” ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรากล่าว “การบริโภคน้ำมันปลา มันสามารถช่วยลดอาการตาแห้งและรักษาการมองเห็นที่ดีต่อสุขภาพ อาหารประจำวันของคุณอาจไม่ได้ให้วิตามินทั้งหมดที่จำเป็นต่อการมีสุขภาพที่ดี นี่เป็นโอกาสที่ดีในการเริ่มทานอาหารเสริม เช่น น้ำมันปลา โอเมก้าจากพืช สังกะสี หรือวิตามินซี เพื่อให้ดวงตาของคุณแข็งแรง”

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทานซอฟเจลน้ำมันปลาหรือผักโอเมก้า 600 มิลลิกรัมทุกวันพร้อมสังกะสีและวิตามินซีพร้อมอาหาร ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสุขภาพดวงตาในขณะที่สนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

Max Lugavere ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสมอง และผู้เขียน Genius Foods กล่าวถึงการระคายเคืองตา “ดวงตามีแนวโน้มที่จะเกิดออกซิเดชัน โดยเฉพาะจากแสงสีน้ำเงินที่มีความยาวคลื่นสั้น และเป็นสิ่งสำคัญมากในการกำหนดจังหวะของร่างกาย นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดความเครียดเนื่องจากอนุมูลอิสระ และส่งเสริมความชรา” ช่วยปกป้องดวงตาและสามารถทำหน้าที่เป็นครีมกันแดดธรรมชาติสำหรับดวงตาของเรา “

อัลเบิร์ต ดิสทีฟาโน (Alberto Distefano) จักษุแพทย์ มหาวิทยาลัยบอสตัน ได้ชี้ให้เห็นความสำคัญของการตรวจสายตาประจำปีหลังจากอายุ 40 ในการตรวจสอบปัญหาด้านสายตา เช่น การเสื่อมสภาพของจอประสาทตา ก่อนที่จะกลายเป็นอาการผิดปกติที่รุนแรง

“ผู้ป่วยที่จอประสาทตาเสื่อมสภาพ จะมีอาการมองเห็นส่วนกลางที่ไม่ชัดเจน เห็นเป็นภาพหยักๆ หรือขนาดของวัตถุมีการผิดเพี้ยนไป” ดิสทีฟาโน กล่าว “หากคุณพบว่ามีปัญหาด้านสุขภาพของดวงตาหรือการมองเห็นควรพบจักษุแพทย์ แทนที่จะเริ่มการรักษาด้วยตนเอง เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี”

ดีสทีฟาโนกล่าวต่อว่า “นี่คือสิ่งสำคัญ การอ่านฉลากและรีวิววิตามิน เพื่อตรวจสอบว่าได้รับการผลิตอย่างถูกต้องตามการแพทย์หรือไม่ พร้อมใช้ยาภายใต้คำแนะนำของผู้ผลิต และไม่ใช้ยาเกินขนาด” มาถึงตอนนี้เราก็เข้าใจแล้วว่าการดูแลดวงตานั้นสำคัญอย่างไร และต่อไปนี้คือวิตามินที่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพดวงตาของคุณ

วิตามิน เอ VITAMIN A

“นี่คือวิตามินที่สำคัญและจำเป็นที่สุดสำหรับดวงตา” ดีสทีฟาโน กล่าว “วิตามินเอจำเป็นสำหรับเรตินาที่เป็นส่วนแรกสำหรับการมองเห็น และส่งเสริมการมองเห็นในเวลากลางคืน ทั้งยังช่วยรักษาความหล่อลื่นของดวงตา หากไม่ได้รับวิตามินเอที่เพียงพอ สามารถนำไปสู่อาการตาแห้งและยากที่จะมองเห็นในเวลากลางคืน” ดีสทีฟาโน เน้นย้ำจุดนี้โดยชี้ให้เห็นว่า “คนที่ขาดวิตามินเอจะมีอาการตาแห้งอย่างรุนแรง และมองเห็นได้ยากในเวลากลางคืน แต่การขาดวิตามินเอนั่นเป็นไปได้ค่อนข้างยาก อาจจะพบได้ในผู้ป่วยบางรายที่ไม่สามารถดูดซึมสารอาหารบางชนิดได้”

วิตามีนซี VITAMIN C

ดีสทีฟาโน อธิบายว่า “สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในวิตามินซี ช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระและโมเลกุลที่ไม่เสถียรซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อดวงตา รวมถึงบางส่วนของร่างกาย สารอนุมูลอิสระนั้นสามารถนำไปสู่การเสื่อมสภาพของจอประสาทตา และเป็นสาเหตุของต้อกระจกได้” เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า “สารต้านอนุมูลอิสระ นั้นช่วยให้สารอนุมูลอิสระไม่สามารถทำลายดวงตาได้”

โอเมก้า 3 กรดไขมัน OMEGA-3 FATTY ACIDS

“โอเมก้า 3 กรดไขมันความเข้มข้นสูง มีความสำคัญสำหรับเรตินาในการมองเห็นที่ดีและการพัฒนาทางสายตา” ดีสทีฟาโนกล่าว “สารนี้สามารถช่วยป้องกันการแห้งของดวงตา โดยการรักษาน้ำตาให้เคลือบดวงตาไว้”

แม็ก ลูกาแวร์ แนะนำว่า การรับประทานน้ำมันปลาคุณภาพดี สามารถช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดวงตาได้ “โอเมก้า  3 กรดไขมัน ช่วยป้องกันดวงตาจากการอักเสบและการเสื่อมตามอายุได้”

ทีมผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำ “น้ำมันปลา” สำหรับสุขภาพดวงตา “คุณประโยชน์ของโอเมก้า 3 กรดไขมัน ที่พบในน้ำมันปลา มีสาร Eicosapentaenoic acid และ Docosahexaenoic acid ที่ช่วยป้องกันการแห้งของดวงตาได้”

ดีสทีฟาโนแนะนำวิตามินเสริมอื่นๆ อีกด้วย ได้แก่ วิตามินอี เบต้าแคโรทีน ซิงค์ ซีลีเนียม ลูทีน และซีซาติน สามารถช่วยเสริมสุขภาพของดวงตาได้

เวจจี้ โอเมก้า

“เวจจี้โอเมก้า เป็นโอเมก้า 3 ชนิดหนึ่ง โดยมีที่มาจากสาหร่าย schizochytrium sp.” ทีมผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า “เวจจี้โอเมก้า อุดมไปด้วย EPA and DHA ที่เหมือนโอเมก้า 3 ที่พบในน้ำมันปลา นี่คือหนทางที่ดีในการได้รับโอเมก้า 3 สำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัต ในการที่จะเสริมสร้างสุขภาพของดวงตา”

แคโรทีนอยด์ CAROTENOIDS

แม็กซ์ ลูกาแวร์ กล่าวว่า “แคโรทีนอยด์ เป็นเม็ดสีที่พบในผักและไข่บางชนิด รวมถึงเนื้อวัวที่กินหญ้าเป็นอาหาร แคโรทีนอยด์นั้นเป็นสารที่ดีต่อดวงตา ลูทีนและซีแซนทีน เป็นแคโรทีนอยด์ที่สะสมอยู่ในดวงตา นั้นช่วยปกป้องดวงตาจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น” ลูกาแวร์กล่าวเสริมว่า “แคโรทีนอยด์สามารถป้องกันอาการปวดตา เนื่องจากการมองหน้าจอตลอดวัน เบต้าแคโรทีนเป็นแคโรทีนอยด์ที่สำคัญ เมื่อเราได้รับจากกานรับประทานพืชผัก เบต้าแคโรทีนจะเข้าสู่ร่างกายและถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอที่ช่วยในส่งเสริมการทำงานของดวงตา”

แอสตาแซนทิน ASTAXANTHIN

ลูการ์แวร์นั้นมีความสนใจในแอสตาแซนทิน ซึ่งเป็นหนึ่งในแคโรทีนอยด์ที่หายาก เขากล่าว่า “แอสตาแซนทินสามารถช่วยบรรเทาอาการจอประสาทตาเสื่อมสภาพในผู้ป่วยเบาหวาน รวมถึงการปวดตา เมื่อยล้าตาและส่งเสริมเกี่ยวการมองเห็นอีกด้วย”

ผักใบเขียวเข้ม ผลไม้ และปลา DARK LEAFY VEGETABLES, FRUIT, AND FISH

ดีสทีฟาโนเชื่อว่าผักใบเขียวเข้ม ผลไม้ และปลานั้นส่งเสริมสุขภาพของดวงตา และวิตามินเสริมนั้นสามารถช่วยคุณได้กรณีที่ได้รับวิตามินไม่เพียงพอ “การกินอาหารประเภทนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมสุขภาพดวงตา” เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ศูนย์หัวใจ สหรัฐอเมริกาแนะนำว่า ควรได้รับ EPA และ DHA 0.5 – 1.0 กรัมต่อวัน เนื่องจากทั้งสองเป็นโอเมก้า 3 กรดไขมัน

ลูกาแวร์กล่าวเสริมว่า “ทุกคนสามารถได้รับประโยชน์จากการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์ เช่น แคโรทีนอยด์ แนะนำให้บริโภคพืชที่มีสีสันหลากหลาย เช่น คะน้าพริกหยวก อะโวคาโด ไข่ และเนื้อสัตว์ และอย่าลืม แคโรทีนอยด์ (Carotenoids) กับไขมัน เพราะสารประกอบนี้ทำงานร่วมกับไขมันในการถูกดูดซึมจากทางเดินอาหาร”